เคยไหมที่อยู่ ๆ ก็เจอเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันต้องการเงินด่วนฉุกเฉินขึ้นมาทันที? นาทีนั้นหลายคนคงนึกถึง การกดเงินสดจากบัตรเครดิต เป็นตัวช่วยแรก เพราะดูเป็นทางออกที่ง่ายและรวดเร็วที่สุด แต่เดี๋ยวก่อน! ก่อนที่คุณจะตัดสินใจกดเงินจากบัตรเครดิตนั้น ต้องดูก่อนว่ากดเงินสดจากบัตรเครดิตเสียอะไรบ้าง มีขั้นตอนอย่างไร และที่สำคัญที่สุดคือกดเงินสดจากบัตรเครดิตจ่ายคืนยังไงให้ประหยัดที่สุด รับรองว่าอ่านบทความจาก XFast Cash จบแล้ว คุณจะสามารถใช้บริการนี้ได้อย่างชาญฉลาด ไม่ถูกดอกเบี้ยไล่ตามตัวแน่นอน!
บัตรเครดิตธรรมดา กดเงินสดออกมาได้จริงหรือ? กดได้กี่บาท
คำตอบคือ “ได้จริง” ค่ะ! บัตรเครดิตทุกใบมีฟังก์ชัน การเบิกถอนเงินสดล่วงหน้า (Cash Advance) ที่ให้คุณเข้าถึงเงินสดฉุกเฉินจากวงเงินคงเหลือของบัตรได้ทันที แต่จำไว้ว่านี่คือการ “กู้เงินด่วน” โดยที่ไม่มีระยะปลอดดอกเบี้ย! และคุณจะต้องเสียค่าธรรมเนียมเบิกถอนเงินสด 3% ของยอดที่กดทันที ซึ่งเป็นต้นทุนสำคัญที่ต้องรู้ก่อนตัดสินใจ
และเงินที่คุณเบิกได้จะเป็นไปตาม วงเงินคงเหลือของบัตรเครดิต ของคุณ ณ ขณะนั้น ยกตัวอย่างเช่น
หากบัตรเครดิตของคุณมีวงเงินรวม 50,000 บาท และคุณใช้รูดซื้อสินค้าไปแล้ว 10,000 บาท นั่นหมายความว่า วงเงินคงเหลือ ที่คุณสามารถ กดเงินจากบัตรเครดิต ได้สูงสุดคือ 40,000 บาท ค่ะ (ทั้งนี้ต้องอยู่ภายใต้ข้อจำกัดวงเงินสูงสุดต่อวันที่ธนาคารกำหนดด้วย)
กดเงินสดบัตรเครดิต มีขั้นตอนและช่องทางอย่างไร?
เมื่อตัดสินใจใช้เงินด่วนจากการกดเงินสดจากบัตรเครดิตแล้ว การเข้าถึงเงินก็ไม่ใช่เรื่องยากเลยค่ะ ปัจจุบันมีช่องทางหลัก ๆ ที่ให้คุณเลือกใช้ได้ตามความสะดวก ซึ่งแต่ละวิธีก็มีขั้นตอนง่าย ๆ ที่คุณสามารถทำได้ทันที
1. กดเงินสดผ่านตู้ ATM ทั่วไป
นี่คือวิธีดั้งเดิมที่เร็วที่สุดในการกดเงินจากบัตรเครดิตเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเงินสดทันที!
- ใส่บัตรเครดิต ในตู้ ATM ที่มีสัญลักษณ์เครือข่ายเดียวกับบัตร (เช่น VISA หรือ Mastercard)
- เลือกเมนูถอนเงินสด และสำคัญมากคือต้องเลือกประเภทบัญชีเป็น “บัตรเครดิต”
- กรอกรหัส PIN (อย่าจำสลับกับรหัส ATM)
- ระบุจำนวนเงิน ที่ต้องการถอน (ระวังวงเงินจำกัดต่อวัน/ต่อครั้ง)
- ยืนยันรายการ แล้วรอรับเงินสดออกมา
2. โอนวงเงินบัตรเครดิตเข้าบัญชีธนาคาร
วิธีนี้เป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะเมื่อคุณต้องการกดเงินจากบัตรเครดิตก้อนใหญ่และให้เงินเข้าบัญชีทันทีผ่านมือถือ
- โหลดแอปพลิเคชัน (Mobile Banking) หรือ เข้าเว็บไซต์ ของธนาคารผู้ออกบัตร
- เข้าสู่เมนูบริการสินเชื่อเงินสด หรือ “เปลี่ยนวงเงินบัตรเครดิตเป็นเงินสด”
- เลือกจำนวนเงิน และระบุบัญชีธนาคาร (ที่เป็นชื่อของคุณ) เพื่อรับโอน
3. กดเงินสดผ่านทางเลือกอื่น
สำหรับคนที่ต้องการเงินด่วนที่สามารถเปลี่ยนเงินในบัตรเครดิตให้เป็นเงินสดได้ภายใน 2 นาที! ทาง XFast Cash เราเป็นบริษัทที่จดทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และให้บริการด้านการเงินมากว่า 17 ปี เราจึงเข้าใจความจำเป็นเร่งด่วน และมีวิธีกดเงินสดจากบัตรเครดิตง่าย ๆ ใน 4 ขั้นตอน ดังนี้
สำหรับคนที่ต้องการเงินด่วนที่สามารถเปลี่ยนเงินในบัตรเครดิตให้เป็นเงินสดได้ภายในไม่กี่นาที และมองหาทางเลือกที่เชื่อถือได้ XFast Cash คือคำตอบที่รวดเร็วและสะดวกสบาย ด้วยประสบการณ์ให้บริการด้านการเงินมากว่า 17 ปี และได้จดทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้ามาแล้ว เราจึงเข้าใจความจำเป็นเร่งด่วนของคุณ และมีวิธีกดเงินสดจากบัตรเครดิตง่าย ๆ ใน 4 ขั้นตอน ดังนี้
- เพิ่มเพื่อน ผ่าน ID Line: @XFASTCASH หรือ Facebook Messenger
- แจ้งจำนวนเงิน ที่ต้องการกดเงินจากบัตรเครดิต
- ทำรายการรูดบัตร แอดมินส่งลิงก์ทำรายการให้ลูกค้า (เลือกว่าจะชำระคืนแบบเต็มจำนวนหรือผ่อนจ่าย)
- รับเงินสดทันที ลูกค้าแจ้งแอดมินว่าทำรายการเรียบร้อย แอดมินโอนเงินเข้าบัญชีลูกค้าภายใน 2 นาที
กดเงินสดจากบัตรเครดิตแล้วจ่ายคืนยังไง? ผ่อนได้ไหม?
เมื่อคุณได้เงินด่วนจากการกดเงินสดจากบัตรเครดิตมาใช้แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการวางแผนชำระคืน นี่คือส่วนสำคัญที่สุดที่จะกำหนดว่าเงินก้อนนี้จะมีต้นทุนสูงแค่ไหน เพราะถ้าคุณ กดเงินสดจากบัตรเครดิตจ่ายคืนยังไง ได้อย่างถูกต้อง คุณก็จะประหยัดดอกเบี้ยไปได้มาก มาดู 3 ทางเลือกหลักในการจัดการหนี้ก้อนนี้กันค่ะ
1. ชำระคืนแบบเต็มจำนวน (วิธีประหยัดดอกเบี้ยที่สุด)
นี่คือทางเลือกที่ดีที่สุดและประหยัดที่สุดค่ะ! เนื่องจากดอกเบี้ยเริ่มคิดทันทีตั้งแต่วันแรกที่ทำรายการ การชำระคืนเต็มจำนวนในรอบบิลถัดไปจึงทำให้ดอกเบี้ยน้อยลง โปรดจำไว้ว่าการคืนเงินต้นให้เร็วที่สุดคือกลยุทธ์สำคัญที่จะช่วยให้คุณหลุดพ้นจากภาระดอกเบี้ยได้โดยเร็ว
2. ชำระคืนแบบขั้นต่ำ (ผลกระทบต่อภาระดอกเบี้ยสะสม)
แน่นอนว่าคุณมีสิทธิ์เลือก ชำระคืนแบบขั้นต่ำ ตามที่ธนาคารกำหนด แต่เราไม่แนะนำวิธีนี้หากไม่จำเป็นจริง ๆ เพราะการจ่ายขั้นต่ำนั้น เงินส่วนใหญ่ที่คุณจ่ายไปจะถูกนำไปหักดอกเบี้ยก่อน แล้วเงินต้นจะถูกหักเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ส่งผลให้หนี้ที่คุณสร้างจากการ กดเงินสดจากบัตรเครดิต ลากยาวออกไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ดอกเบี้ยก็จะถูกคิดทบไปเรื่อย ๆ ทำให้ภาระหนี้ของคุณพอกพูนขึ้นอย่างรวดเร็ว
3. ผ่อนชำระรายเดือน
หากคุณไม่สามารถชำระเต็มจำนวนได้และต้องการหลีกเลี่ยงการจ่ายขั้นต่ำพร้อมดอกเบี้ยที่เดินไม่หยุด คุณสามารถเลือกผ่อนชำระรายเดือน (Cash Installment Plan) โดยติดต่อธนาคาร หรือใช้บริการที่มาพร้อมทางเลือกผ่อนจ่ายอย่าง XFast Cash ซึ่งจะเปลี่ยนยอดหนี้ให้เป็นงวด ๆ ที่มีดอกเบี้ยคงที่ตลอดระยะเวลาผ่อน การผ่อนชำระรายเดือนจะช่วยให้คุณสามารถวางแผนการเงินได้ง่ายขึ้นและทราบยอดที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือนอย่างแน่นอ
กดเงินสดจากบัตรเครดิตเสียอะไรบ้าง?
เราสามารถกดเงินสดจากบัตรเครดิตได้ง่าย แต่ในทางกลับกันเราก็มีส่วนที่ต้องจ่ายเพื่อเป็นค่าบริการ ต้นทุนของการเบิกถอนเงินสดล่วงหน้านั้นประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก ๆ ที่รวมกันแล้วทำให้เงินด่วนนี้มีราคาค่อนข้างสูง
1. ค่าธรรมเนียมเบิกถอนเงินสด (3% ของยอดที่กด)
ทุกครั้งที่คุณทำรายการกดเงินจากบัตรเครดิต คุณจะต้องถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเบิกถอนเงินสดล่วงหน้า (Cash Advance Fee) ทันที ซึ่งค่าธรรมเนียมกดเงินสดบัตรเครดิตส่วนใหญ่จะอยู่ที่อัตรา 3% ของจำนวนเงินที่คุณเบิกถอนออกมา นี่คือค่าใช้จ่ายคงที่ที่จะถูกหักไปตั้งแต่แรก
2. ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT 7% ของค่าธรรมเนียม)
นอกจากค่าธรรมเนียม 3% แล้ว คุณยังต้องชำระ ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) อีก 7% ซึ่งจะถูกคำนวณจาก ยอดค่าธรรมเนียม 3% เท่านั้น (ไม่ใช่จากยอดเงินที่คุณกด) ดังนั้น VAT ก้อนนี้จะถูกรวมเข้าไปเป็นต้นทุนตั้งแต่แรกเช่นกันค่ะ
3. ดอกเบี้ยรายวัน (Interest Rate)
นี่คือค่าใช้จ่ายที่จะเดินไปเรื่อย ๆ จนกว่าคุณจะชำระคืนครบเต็มจำนวน อัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิตสูงสุดในปัจจุบันถูกกำหนดไว้ไม่เกิน 16% ต่อปี และจะถูกคิดคำนวณเป็น รายวัน ตั้งแต่วันที่คุณทำรายการ
ความจริงที่ต้องรู้! ดอกเบี้ยเริ่มคิดทันทีตั้งแต่วันแรก
โปรดจำไว้ว่าการกดเงินสดจากบัตรเครดิตนั้น ไม่มีระยะปลอดดอกเบี้ย เหมือนกับการรูดซื้อสินค้า ดอกเบี้ยจะเริ่มเดินตั้งแต่วินาทีที่คุณทำรายการสำเร็จจนถึงวันที่คุณชำระคืนเต็มจำนวน นี่คือจุดที่ทำให้ต้นทุนการกู้เงินฉุกเฉินนี้สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
ตัวอย่างการคำนวณค่าใช้จ่ายทั้งหมด
มาดูตัวเลขจริงกัน เพื่อให้คุณเห็นภาพชัดเจนว่าเงิน 10,000 บาทที่คุณกดมานั้น จะมีต้นทุนเท่าไหร่เมื่อต้องใช้เวลา 30 วันในการชำระคืน
|
รายการค่าใช้จ่าย (ดอกเบี้ย 16% ต่อปี) |
การคำนวณ |
จำนวนเงิน (บาท) |
|
1. ค่าธรรมเนียม 3% |
10,000 x 3% |
300 |
|
2. ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT 7%) |
300 x 7% |
21 |
|
3. ดอกเบี้ยรายวัน (30 วัน) |
(10,000 x 16% x 30) / 365 |
131.51 |
|
รวมต้นทุนเงินด่วน |
(1) + (2) + (3) |
452.51 |
นั่นหมายความว่า หากคุณกู้ 10,000 บาท และคืนภายใน 1 เดือน คุณจะต้องจ่ายเงินคืนรวม 10,452.51 บาท ซึ่งแสดงให้เห็นว่าต้นทุนของเงินด่วนนี้สูงกว่า 4.5% ภายในเวลาอันสั้น
ข้อดีของการกดเงินสดบัตรเครดิต
แม้เราจะเน้นย้ำเรื่องค่าใช้จ่ายที่สูงมาแล้ว แต่เราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการกดเงินสดจากบัตรเครดิตยังคงเป็นเครื่องมือทางการเงินที่มีข้อดีหลายอย่าง ซึ่งสามารถช่วยแก้ปัญหาในสถานการณ์ที่จำเป็นจริง ๆ ได้ค่ะ
- ได้เงินสดทันที
ความรวดเร็วเป็นจุดแข็งที่สำคัญที่สุด คุณสามารถเข้าถึงเงินสดได้ทันทีที่ตู้ ATM แต่ถ้าต้องการความเร็วสูงสุดในยุคดิจิทัล การทำรายการผ่าน XFast Cash จะช่วยให้คุณได้เงินเข้าบัญชีใน 2 นาที โดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปตู้ ATM หรือรอการอนุมัติสินเชื่อจากธนาคาร ซึ่งตอบโจทย์สถานการณ์ฉุกเฉินได้อย่างรวดเร็ว
- ทางออกของคนร้อนเงินในสถานการณ์ฉุกเฉิน
การกดเงินสดจากบัตรเครดิตทั่วไปมักมีทางเลือกหลักแค่จ่ายเต็มหรือจ่ายขั้นต่ำ แต่ข้อดีคือคุณมีทางเลือกในการเปลี่ยนยอดเป็นผ่อนชำระได้! โดยเฉพาะบริการของเราที่ให้คุณเลือกผ่อนจ่ายได้สูงสุด 10 เดือน ได้ตั้งแต่ขั้นตอนการทำรายการ ซึ่งช่วยให้คุณวางแผนการชำระคืนได้ชัดเจน ไม่ต้องกังวลเรื่องการจ่ายเต็มจำนวนกะทันหันในรอบบิลถัดไป
- ใช้ได้เต็มวงเงินคงเหลือของบัตร
คุณสามารถเข้าถึงเงินได้สูงสุดตาม วงเงินคงเหลือของบัตรเครดิต ณ ขณะนั้น (ตามข้อจำกัดของธนาคาร) ข้อดีคือคุณเข้าถึงวงเงินได้ง่ายกว่าการขอสินเชื่อใหม่ที่ใช้เวลานาน ซึ่งเงินก้อนนี้พร้อมให้คุณนำไปแก้ไขปัญหาสถานการณ์ฉุกเฉินได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นค่าซ่อมแซมหรือค่าใช้จ่ายจำเป็นเร่งด่วนอื่น ๆ
ข้อควรระวัง
ในฐานะเพื่อนทางการเงิน เราต้องเตือนคุณถึงความเสี่ยงที่มาพร้อมกับการกดเงินสดจากบัตรเครดิต เพื่อให้เงินด่วนนี้ไม่สร้างภาระหนี้ระยะยาวให้กับคุณ หากไม่เข้าใจข้อควรระวังเหล่านี้ อาจทำให้ต้นทุนพุ่งสูงกว่าที่คาดไว้มากค่ะ
- ไม่มีระยะปลอดดอกเบี้ย
นี่คือสิ่งที่อันตรายที่สุดและแตกต่างจากการรูดซื้อสินค้าอย่างสิ้นเชิง โปรดจำไว้ว่าการกดเงินสดจากบัตรเครดิตนั้น ไม่มีระยะปลอดดอกเบี้ย ดอกเบี้ยจะถูกคิดทันทีตั้งแต่วันที่คุณทำรายการสำเร็จ ไม่ว่าคุณจะกดไปเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็ตาม ดังนั้น อย่าคิดว่าคุณจะมีเวลา 45-55 วันในการหาเงินมาคืนเหมือนกับการรูดบัตรนะคะ!
- ควรชำระเต็มจำนวน
แม้ว่าธนาคารจะอนุญาตให้คุณ ชำระคืนแบบขั้นต่ำ ได้ แต่เมื่อเทียบกับต้นทุนดอกเบี้ยที่เริ่มเดินตั้งแต่วันแรกแล้ว ทางเลือกที่ดีที่สุดคือการเตรียมเงินคืนและ ควรชำระเต็มจำนวน ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะการจ่ายขั้นต่ำจะทำให้อัตราดอกเบี้ย 16% ต่อปีนั้นถูกคิดทบต้นไปเรื่อย ๆ ทำให้หนี้ก้อนนี้ลากยาวและมีภาระดอกเบี้ยสะสมที่สูงมาก
- การกดเงินสดมีผลต่อคะแนนเครดิต (เครดิตบูโร)
กดเงินสดจากบัตรเครดิต ด้วยตัวเองไม่ได้ทำให้ประวัติเครดิตเสียโดยอัตโนมัติ แต่สิ่งที่คุณต้องระวังคือ ผลกระทบจากการจัดการหนี้ หากคุณใช้เงินสดจนเต็มวงเงิน (Utilization Rate สูง) และหากผิดนัดชำระหรือจ่ายขั้นต่ำเป็นเวลานาน ๆ ข้อมูลเหล่านี้จะถูกบันทึกในเครดิตบูโร และจะส่งสัญญาณให้สถาบันการเงินอื่นเห็นว่าคุณมีภาระหนี้สูง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการขอสินเชื่อบ้านหรือสินเชื่อรถยนต์ในอนาคตได้
สรุป
การกดเงินสดจากบัตรเครดิต เป็นเครื่องมือทางการเงินที่ยอดเยี่ยมและรวดเร็วสำหรับสถานการณ์ฉุกเฉินจริง ๆ แต่จากข้อมูลทั้งหมดที่เราได้เรียนรู้ร่วมกัน คุณคงเห็นแล้วว่ามันมาพร้อมกับต้นทุนที่สูงมากจาก ค่าธรรมเนียม 3% และ VAT 7% ที่เรียกเก็บตั้งแต่แรกเริ่ม และที่สำคัญที่สุดคือ ดอกเบี้ยที่เริ่มคิดทันทีตั้งแต่วันแรก
ดังนั้น กฎทองของการใช้เงินด่วนนี้คือ กดเท่าที่จำเป็น และชำระคืนเต็มจำนวนให้เร็วที่สุด เพื่อให้คุณประหยัดเงินจากดอกเบี้ยที่เดินไม่หยุด
หากคุณกำลังมองหาทางเลือกที่มีดอกเบี้ยบัตรเครดิตกดเงินสดที่เหมาะสมกว่า บริการของ XFast Cash อาจเป็นคำตอบ เรามีบริการถอนเงินสดจากบัตรเครดิตออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง และมีทางเลือกทั้งแบบชำระเต็มจำนวนหรือผ่อนชำระสูงสุด 10 เดือน พร้อมการโอนเงินเข้าบัญชีไม่เกิน 2 นาทีหลังรายการอนุมัติ ด้วยความปลอดภัยสูงสุด เลือกใช้บริการกับ XFast Cash วันนี้ เพื่อประสบการณ์การรูดบัตรเครดิตเป็นเงินสดที่สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยที่สุด
สำหรับท่านที่สนใจบริการกดเงินสดจากบัตรเครดิต สามารถติดต่อได้ที่:LINE ID: @XFASTCASH
