วิธีคิดดอกเบี้ยบัตรเครดิต ฉบับเข้าใจง่าย คำนวณเองได้

วิธีคิดดอกเบี้ยบัตรเครดิต
สารบัญ

หลายคนใช้บัตรเครดิตเป็นประจำ แต่ยังไม่แน่ใจว่า วิธีคิดดอกเบี้ยบัตรเครดิต เป็นอย่างไร ทำไมยอดที่เห็นในใบแจ้งหนี้ถึงมากกว่าที่รูดซื้อจริง ความเข้าใจตรงนี้สำคัญมาก เพราะจะช่วยให้คุณใช้บัตรเครดิตอย่างฉลาด รู้ทันดอกเบี้ย และวางแผนการเงินได้ดีขึ้น วันนี้ XFast Cash หาคำตอบมาให้แล้ว ไปดูพร้อมกัน!

ประเภทของดอกเบี้ยบัตรเครดิต

ก่อนจะไปถึงการ คํานวณดอกเบี้ยบัตรเครดิต เราต้องเข้าใจก่อนว่าดอกเบี้ยบัตรเครดิตมีหลายประเภท ซึ่งขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการซื้อสินค้า กดเงินสด หรือผิดนัดชำระ แต่ละแบบมีกฎเกณฑ์และเงื่อนไขที่แตกต่างกัน

ดอกเบี้ยจากการซื้อสินค้า

เมื่อคุณใช้บัตรเครดิตรูดซื้อของ หากคุณชำระเต็มจำนวนภายในรอบบิล ดอกเบี้ยจะไม่ถูกคิดเลย แต่ถ้าชำระเพียงขั้นต่ำ หรือไม่ตรงเวลา ดอกเบี้ยจะถูกคำนวณทันที โดยคิดตามจำนวนเงินที่เหลือค้างชำระ

ตัวอย่าง: สมมติคุณรูดซื้อโทรศัพท์มือถือราคา 20,000 บาท และใบแจ้งหนี้กำหนดให้ชำระภายในวันที่ 10 ของเดือน หากคุณจ่ายเต็ม 20,000 บาทในกำหนด ดอกเบี้ยจะไม่เกิดขึ้นเลย แต่ถ้าคุณจ่ายเพียง 2,000 บาท (ขั้นต่ำ 10%) ส่วนที่เหลือ 18,000 บาทจะถูกนำไปคิดดอกเบี้ยทันที และจะทบต่อในรอบบิลถัดไปจนกว่าคุณจะปิดยอดทั้งหมด

ดอกเบี้ยจากการกดเงินสดล่วงหน้า

หลายคนเลือกกดเงินสดจากบัตรเครดิตเพราะ ต้องการเงินด่วน ใช้ทันที แต่ควรรู้ว่าเงินก้อนนี้จะถูกคิดดอกเบี้ยตั้งแต่วันแรก แถมมีค่าธรรมเนียมเพิ่ม ทำให้ต้นทุนสูงกว่าการรูดซื้อสินค้า

ตัวอย่าง: สมมติคุณกดเงินสด 10,000 บาท จากบัตรเครดิตที่มีอัตราดอกเบี้ย 16% ต่อปี (คิดเฉลี่ยรายวันประมาณ 0.044%) และธนาคารคิดค่าธรรมเนียมการกด 3% ของยอดเงิน (300 บาท) เท่ากับว่าคุณเริ่มต้นหนี้ทันทีที่ 10,300 บาท และหากคุณยังไม่จ่ายคืน ยอดนี้จะถูกนำไปคิดดอกเบี้ยตั้งแต่วันแรกที่กดจนกว่าจะปิดยอดทั้งหมด

สูตรการคำนวณดอกเบี้ย: เมื่อชำระเต็มจำนวน vs. ชำระขั้นต่ำ

หัวใจของการเข้าใจ การคิดดอกเบี้ยบัตรเครดิต อยู่ที่การชำระเงิน หากคุณจ่ายเต็มจำนวนทันเวลา ดอกเบี้ยจะไม่เกิดขึ้น แต่ถ้าจ่ายเพียงขั้นต่ำหรือชำระล่าช้า ดอกเบี้ยจะเริ่มทำงานทันที โดยคำนวณจากยอดเงินที่ค้างคา

กรณีที่ 1 ชำระเต็มจำนวน

ถ้าคุณจ่ายเต็มจำนวนตามใบแจ้งหนี้ ไม่ว่าจะยอดเท่าไหร่ ดอกเบี้ยจะไม่ถูกคิดเลย วิธีนี้ถือเป็นการใช้บัตรเครดิตที่มีประสิทธิภาพที่สุด เพราะคุณได้ประโยชน์จากการใช้เงินล่วงหน้าโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

สูตร
กรณีนี้ไม่ต้องใช้สูตรคำนวณใด ๆ เพราะดอกเบี้ย = 0 บาท (เมื่อชำระเต็มและตรงเวลา)

กรณีที่ 2: ชำระขั้นต่ำ

ในทางกลับกัน หากเลือกชำระเพียงขั้นต่ำ เช่น 10% ของยอดบิล ส่วนที่เหลือยังคงเป็นหนี้ค้างและจะถูกนำไป คํานวณดอกเบี้ยบัตรเครดิต ต่อไป นอกจากนี้ยังอาจทำให้หนี้สะสมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพราะดอกเบี้ยทบต้น

สูตรการคำนวณดอกเบี้ยบัตรเครดิต (แบบรายวัน)

ดอกเบี้ย=(ยอดเงินคงค้าง×อัตราดอกเบี้ยต่อปี×จำนวนวันคงค้าง)÷365

ตัวอย่างการคำนวณดอกเบี้ยที่เห็นภาพชัดเจน

หลายครั้งแค่ทฤษฎีอาจทำให้เข้าใจยาก ดังนั้นเรามาลองดูตัวอย่างจริง เพื่อให้เห็นภาพวิธีคิดดอกเบี้ยบัตรเครดิตที่ชัดเจนขึ้น

ตัวอย่างที่ 1 วิธีคิดดอกเบี้ยบัตรเครดิต เมื่อชำระเต็มจำนวน

สมมติว่าคุณรูดซื้อสินค้า 10,000 บาท และชำระเต็มจำนวนตามกำหนด ใบแจ้งหนี้รอบถัดไปจะไม่มีดอกเบี้ยเกิดขึ้นเลย วิธีนี้ช่วยให้คุณใช้เครดิตฟรีได้สูงสุด 45–55 วัน ขึ้นอยู่กับรอบบิลของธนาคาร

ตัวอย่างที่ 2 วิธีคิดดอกเบี้ยบัตรเครดิต เมื่อมีการจ่ายขั้นต่ำ

ในอีกกรณี หากคุณรูด 20,000 บาท แต่จ่ายเพียง 2,000 บาท (ขั้นต่ำ 10%) ส่วนที่เหลือ 18,000 บาทจะถูกคิดดอกเบี้ยทันที สมมติอัตราดอกเบี้ย 16% ต่อปี จะคิดเฉลี่ยเป็นรายวัน และถ้าคุณยังไม่ปิดยอดทั้งหมด ดอกเบี้ยจะทบต้นเพิ่มขึ้นในรอบถัดไป

  • ยอดบิลทั้งหมด: 20,000 บาท
  • ชำระขั้นต่ำ 2,000 บาท → เหลือค้าง 18,000 บาท
  • อัตราดอกเบี้ย: 16% ต่อปี (≈ 0.044% ต่อวัน)
  • ค้างชำระ 30 วัน

ดอกเบี้ย=(18,000×0.16×30)÷365 ≈ 236.71บาท

นั่นหมายความว่าเดือนถัดไป คุณจะต้องจ่ายยอดคงค้าง 18,000 + ดอกเบี้ย 236.71 บาท และหากยังจ่ายไม่หมด ดอกเบี้ยก็จะทบต้นเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) และข้อควรระวัง

แม้จะรู้สูตรแล้ว หลายคนยังสงสัยว่า ดอกเบี้ยเริ่มนับตั้งแต่เมื่อไหร่ และถ้าผิดนัดจะเกิดอะไรขึ้น การเข้าใจตรงนี้ช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงปัญหาหนี้บัตรเครดิตได้ดีขึ้น

ดอกเบี้ยเริ่มเดินเมื่อไหร่?

สำหรับการซื้อสินค้า ดอกเบี้ยจะเริ่มนับก็ต่อเมื่อคุณไม่จ่ายเต็มจำนวน แต่สำหรับการกดเงินสด ดอกเบี้ยจะเริ่มเดินตั้งแต่วันแรกที่กดเงินออกมา

ถ้าชำระเกินวันครบกำหนดจะเกิดอะไรขึ้น?

ถ้าคุณชำระช้ากว่า due date ไม่เพียงแต่ดอกเบี้ยจะถูกคิดทันที แต่ยังอาจโดนค่าปรับล่าช้าเพิ่มเติมอีกด้วย ซึ่งจะทำให้ยอดหนี้บานปลายอย่างรวดเร็ว หากมีปัญหาสภาพคล่องจริง ๆ หลายคนอาจพิจารณาทางเลือกอย่างเงินด่วนโอนเข้าบัญชีเพื่อปิดบัตรก่อน และค่อยผ่อนชำระทีหลัง แต่อย่าลืมตรวจสอบเงื่อนไขและดอกเบี้ยให้ดีก่อนตัดสินใจ

วิธีลดภาระดอกเบี้ยบัตรเครดิต

หากอยากลดภาระ ควรชำระเต็มจำนวนทุกครั้ง เลือกใช้บัตรเครดิตเฉพาะการซื้อสินค้าที่จำเป็น และหลีกเลี่ยงการกดเงินสด เพราะดอกเบี้ยเริ่มคิดทันที อีกทางเลือกคือการโอนยอดไปยังบัตรที่มีโปรโมชั่นดอกเบี้ยต่ำ เพื่อช่วยผ่อนคลายภาระชั่วคราว

สรุป เข้าใจวิธีคิดดอกเบี้ยบัตรเครดิตช่วยให้ใช้เงินถูกหลัก

การเข้าใจ วิธีคิดดอกเบี้ยบัตรเครดิต ถือเป็นทักษะสำคัญของผู้ใช้บัตรทุกคน เมื่อคุณรู้หลักการและสามารถ คํานวณดอกเบี้ยบัตรเครดิต ได้ด้วยตนเอง จะช่วยให้วางแผนการเงินได้ดีขึ้น และหลีกเลี่ยงการจ่ายดอกเบี้ยโดยไม่จำเป็น จำไว้ว่าบัตรเครดิตไม่ใช่ศัตรู แต่ถ้าใช้โดยไม่เข้าใจ การคิดดอกเบี้ยบัตรเครดิต มันอาจกลายเป็นภาระทางการเงินที่หนักเกินรับไหว

สำหรับท่านที่สนใจบริการรูดบัตรเครดิตเป็นเงินสด สามารถติดต่อได้ที่:LINE ID: @XFASTCASH

บทความที่เกี่ยวข้อง
วงเงินคงเหลือ คือ
วงเงินคงเหลือ คือ ? ข้อควรรู้สำหรับผู้ถือบัตรเครดิต
อ่านต่อ
บัตรกดเงินสด
บัตรกดเงินสด คือ? รวมทุกข้อสงสัย แนะนำบัตรที่น่าสนใจ
อ่านต่อ
ปลดหนี้บัตรเครดิต
ปลดหนี้บัตรเครดิต 3 ขั้นตอนที่ถูกวิธี ได้ผลจริง!
อ่านต่อ